Last updated: 30 พ.ค. 2563 | 13780 จำนวนผู้เข้าชม |
ในเมื่อโลกไม่ยอมเปลี่ยน พวกเขาเหล่านี้จึงต้องลุกขึ้นมา 'เปลี่ยนโลก' ด้วยมือของพวกเขาเอง เรารวบรวมนักปฏิวัติ 6 คนชื่อก้องโลกที่ทรงอิทธิพล และเป็นแรงบันดาลใจจนถึงปัจจุบัน
1. คาร์ล มาร์กซ (Karl Marx)
นักทฤษฎีผู้ที่ได้รับการยกย่องว่ายิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งตลอดกาล แนวคิดของมาร์กซได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้แก่โลกไม่น้อย ในงานที่เขาเขียนร่วมกับ ฟรีดริช เองเกลส์ แถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ (The Communist Manifesto) ถือได้ว่าเป็นคู่มือการปฏิวัติของฝ่ายซ้ายทั่วโลก ถูกยกย่องว่าเป็นงานเขียนชิ้นที่ดีที่สุดของมนุษย์เคียงข้างกับคัมภีร์ไบเบิล, หนังสือ The Republic ของเพลโต รวมถึงคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา
คาร์ล มาร์กซ เชื่อในพลังของชนชั้นแรงงานที่จะต่อสู้เปลี่ยนแปลงสถานะของตน และเขาก็กระตุ้นให้คนอื่นมองเห็นแบบเดียวกันเขา มาร์กซ์มองเห็นประชาชนว่ามีพลัง และสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ การประท้วงที่จัดตั้งโดยพวกแรงงานก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายประเทศ ทั้งทำให้เกิดกฎหมายที่ห้ามการเลือกปฏิบัติ แบ่งแยกชนชั้น เพศสภาพ และการเปลี่ยนแปลงมุมมองในเชิงสังคมอย่างอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม
====
2. จอร์จ วอชิงตัน (George Washington)
จอร์จ วอชิงตัน ผู้นำคนแรกของสหรัฐอเมริกา เขาเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพสหรัฐอเมริกาภาคพื้นทวีป ในเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงทางอิสรภาพครั้งใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้สหรัฐอเมริการสามารถปลดแอกตนเองออกจากการเป็นอาณานิคมของเครือจักรภพอังกฤษได้สำเร็จ ในการปฏิวัติครั้งสำคัญเพื่อขับไล่กองทัพอังกฤษออกจากบอสตันในปี ค.ศ.1775-1783 วอชิงตันเป็นที่จดจำในฐานะวีรบุรุษคนแรกผู้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของอเมริกา
ภายหลังการปฏิวัตินั้น จอร์จ วอชิงตัน ยังได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาในปี 1789 -1797
====
3. เหมาเจ๋อตง (Mao Zedong)
เหมาเจ๋อตง ประธานพรรคคอมมิวนิสต์ และนักปฏิวัติผู้นำพาจีนเข้าสู่ระบอบการปกครองแบบสังคมนิยม พร้อมกับสถาปนา ‘สาธารณรัฐประชาชนจีน' (People’s Republic of China) เขาคือผู้ก่อตั้งกองทัพแดงจากการรวบรวมพรรคพวกทั้งกรรมกรและชาวนาทั่วประเทศ ร่วมเดินทัพไกลกว่า 25,000 ลี้ ไปทางเหนือของจีน จากนั้นจึงรวมกำลังเป็นกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ทำสงครามรุกไล่กำลังทหารของรัฐบาลเจียงไคเชค จนสามารถยึดอำนาจได้ ก่อนจะประกาศต่อปวงชน ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 1 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1949
====
4. เนลสัน แมนเดลา (Nelson Mandela)
เนลสัน แมนเดลา ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของแอฟริกาใต้ และเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยอย่างถูกต้อง ดำรงตำแหน่งในช่วงปี ค.ศ. 1994-1999
แอฟริกาใต้ในช่วงก่อนยุคของแมนเดลานั้นเต็มไปด้วยนโยบายกีดกันทางเชื้อชาติ ทำให้คนผิวสีไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม เขาได้เป็นแกนนำประท้วงนโยบายแบ่งแยกสีผิว ซึ่งถูกกำหนดโดยกลุ่มผู้ปกครองประเทศที่เป็นคนผิวขาว ต่อมาการประท้วงรุนแรงขึ้น จนทำให้เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ก่อนที่นานาชาติจะร่วมกันรณรงค์เรียกร้องให้ทางการปล่อยตัว หลังจากถูกจำคุกนาน 27 ปี เขาก็ได้รับอิสรภาพ และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะวีรบุรุษผู้ส่งเสริมการให้อภัยและความเสมอภาค
====
5. โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh)
โฮจิมินห์ (ผู้ส่องแสงสว่าง) วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนาม นักปฏิวัติผู้ต่อสู้ให้ได้มาซึ่งเอกราช และวีรบุรุษที่ยังคงเป็นที่จดจำของอนุชนรุ่นหลัง ตลอดช่วงชีวิตในวัยเด็ก เขาได้สัมผัสถึงการกดขี่จากชาวฝรั่งเศส และความไม่เป็นธรรมที่ชาวเวียดนามทุกชั้นชนได้รับ เขาได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้เวียดนาม มีสิทธิ์ในการปกครองตนเองต่อ วูดโรว์ วิลสัน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ในปี ค.ศ. 1945 เขาได้อ่าน ‘ปฏิญญาเอกราช’ ต่อหน้าชาวเวียดนาม กว่า 500,000 คน ณ จัตุรัสบาดินห์ เมืองฮานอย โดยประกาศไม่เป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสอีกต่อไป พร้อมกับสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม
====
6. สปาร์ตากุส (Spartacus: 111-71 BC)
ทาสชาวเทรซ (Thrace) ที่ถูกขายให้เป็นนักต่อสู้กับสิงโต (Gladiator) ในสาธารณรัฐโรมัน สปาร์ตากุสเป็นผู้นำการลุกฮือของทาสที่เมืองคาร์ปัวน์เมื่อ 73 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยเขารวบรวมทาสชนชาติต่างๆ ได้เป็นจำนวนมากเพื่อก่อการกบฏเอาชนะกองทัพโรมัน แม้ต่อมากองทัพของพวกกบฏพ่ายแพ้ต่อกองทัพโรมัน ทาสที่ถูกจับได้ถูกนำไปตรึงบนไม้กางเขนเพื่อเป็นการประจานไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง แต่การลุกฮือของทาสชาวโรมันแห่งกรุงโรมภายใต้การนำของสปาร์ตากุสได้รับการยกย่องว่าเป็นขบวนการปลดแอกของชนชั้นทาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
คาล มาร์กซ์ นักทฤษฏี นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลกยกย่อง 'สปาร์ตากุส' ว่าเป็นบุคคลที่วิเศษที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคโบราณทั้งมวล "เขาเป็นขุนพลผู้ยิ่งใหญ่ เป็นตัวแทนของชนกรรมาชีพยุคโบราณที่แท้จริง"
========
สำนักพิมพ์สมมติขอเชิญชวน 'ผู้อ่าน' ร่วมสวมใส่ เสื้อไม่ไว้วางใจ และ เสื้อยืดคำประกาศของคณะราษฎร เพื่อเป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของการไม่สยบยอมต่ออำนาจอันไม่ชอบมาพากล
1. เสื้อไม่ไว้วางใจ
ในราคาพิเศษ 380 บาท
คลิก http://bit.ly/39417qK
● เสื้อยืดสีดำแสดงความเงียบ สงบ ทว่ามีนัยถึงความแข็งแกร่ง ไม่โอนอ่อน และไม่สยบยอม
● ข้อความบนเสื้อยืดสีดำ ทำหน้าที่ส่งเสียงกู่ตะโกนถึงความต้องการและการต่อต้านอย่างเงียบสงบที่สุด!!!
=============================
2. เสื้อยืดคำประกาศคณะราษฎร
ร่วมระลึกถึงหลักการตั้งต้นของ 'คณะราษฎร' กลุ่มคณะผู้นำประชาธิปไตยมาสู่สังคมไทย ในวาระครบรอบ 88 ปี อภิวัฒน์ 2475
คลิกสั่งซื้อ เสื้อยืดคำประกาศคณะราษฎร
ราคา 380 บาท
กล่าวสำหรับข้อความ 'พึงรู้เถิดว่าประเทศเรานี้เป็นของราษฎร' คือวรรคทองวรรคหนึ่งที่ปรากฏอยู่ใน 'คำประกาศคณะราษฎร' ที่ถูกนำมาขณะย่ำรุ่งของวันที่ 24 มิ.ย. 2475
และหากใครก็ตามที่ได้อ่าน 'คำประกาศฯ' จะเห็นว่า ข้อความ 'พึงรู้เถิดว่าประเทศเรานี้เป็นของราษฎร' นำหน้าประโยคที่ต่อท้ายมาอย่างมีนัยสำคัญ!!!
ถึงเวลายืนยันตัวตน และชัดเจนในสิ่ง 'จุดยืน' และ 'อุดมคติตั้งต้น'
ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ครอบครองเสื้อ 'พึงรู้เถิดว่าประเทศเรานี้เป็นของราษฎร'
17 ก.ค. 2563
14 เม.ย 2564