อ่าน 1984 แล้วต้องอ่านเล่มนี้ Swastika Night

Swastika Night
ความเห็นของสื่อมวลชนและนักวิจารณ์วรรณกรรม

“ผมให้คะแนน Swastika Night 7.3 จากเต็ม 10 เพราะสาระสำคัญของนวนิยายที่ทำนายถึงอนาคต วรรณกรรมเรื่องนี้ซึ่งเขียนถึงสังคมแบบดิสโทเปียนในโลกอนาคตจะกลายเป็นประวัติศาสตร์อีกทางเลือกหนึ่งต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า”

— Max Atlas; Dystopian Books Review

==========

“วรรณกรรมที่เขียนขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่สองของเบอร์เดกินซึ่งบรรยายได้อย่างน่ากลัวและเน้นแนวคิดสตรีนิยม...รวมทั้งเสนอคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ถูกต้องมีเหตุผลอย่างยิ่งเกี่ยวกับลัทธิฟาสซิสม์”

— Adam Charles Roberts; Vice-President of the H.G. Wells Society (2018): The History of Science Fiction

==========

“เราสามารถมองได้ว่า Swastika Night เป็น ‘วรรณกรรมคู่หู’ ของ 1984 เป็นการสำรวจอีกด้านหนึ่งของเหรียญเผด็จการด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง การหยั่งรู้ล่วงหน้า และความเป็นมนุษย์ ที่ได้ทำไปอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งสองเล่มเขียนขึ้นในยุคไล่เลี่ยกัน ทั้งสองลงมือผ่าตัดพิสูจน์ทางจิตพยาธิวิทยาอำนาจปกครองในสังคม ทั้งสองเป็นจินตนาการแบบชาญฉลาดถึงอนาคตที่อาจเป็นไปได้ซึ่งมาจากข้อสรุปอันน่ากลัว แต่มีเหตุผลเกี่ยวกับอุดมการณ์บ้าคลั่งเสียสติเหล่านี้ มีแม้กระทั่งความคล้ายคลึงกันโดยเฉพาะบางประเด็นระหว่างทั้งสองเรื่อง ... จึงถือได้ว่าวรรณกรรมทั้งสองนี้มีระดับสถานะอันเท่าเทียมกัน และในบางกรณี Swastika Night เป็นความสำเร็จอันน่าทึ่งที่เหนือกว่าทั้งทางวรรณศิลป์และภูมิปัญญาเสียด้วยซ้ำ ...

“...  เช่นเดียวกับวรรณกรรมคู่หูของออร์เวลล์นั้นเอง Swastika Night  ส่งพลังเย็นเฉียบสั่นพริ้วลงไปตามกระดูกสันหลัง แสดงวิสัยทัศน์อันแจ่มแจ้งถึงหลายสิ่งที่จะเกิดขึ้น และหลายสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ อันที่จริงแล้ว Swastika Night เกือบจะถูกพิจารณาว่าเป็นเพียงการพยากรณ์อนาคตมากกว่านวนิยายเชิงคาดการณ์ หรืออาจเป็นคำเตือนก็ได้ โดยพื้นฐานความเป็นจริงในประวัติศาสตร์และความจริงเชิงจินตนาการ และก็เช่นเดียวกับนวนิยาย 1984 นั้นเอง Swastika Night คือคำเตือนที่ควรรับฟังในรูปแบบของงานวรรณกรรมที่ควรค่าแก่การอ่าน”

— Darragh McManus; The Guardian

==========

“Swastika Night เป็นกายวิภาคศาสตร์ของแนวคิดสตรีนิยมอันสุดแสบสันต์ที่เกี่ยวข้องกับสงคราม การกีดกันทางเพศ และการใช้อำนาจ นวนิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งใน ‘วรรณกรรมคลาสสิค’ ของหมวดนิยายวิทยาศาสตร์ในช่วงสงคราม"

— John Clute; Science Fiction: The Illustrated Encyclopedia

========== 

“Swastika Night คือความดั้งเดิมแรกสุดในบรรดาวรรณกรรมดิสโทเปียนที่ต่อต้านลัทธิฟาสซิสม์ในช่วงปลายทศวรรษ 1930”

— Andy Croft, literary historian; English Fiction in the 1930s

==========

“วิสัยทัศน์อันทรงพลังและหลอนลวงแห่งโลกภายในและภายนอกของความรุนแรงโดยผู้ชาย”

— Blanche Wiesen Cook; author of Eleanor Roosevelt: Volume 1, 1884-1933

==========

“Swastika Night ไปไกลกว่าประเด็นเฉพาะเจาะจงของอุดมการณ์นาซี โลดแล่นไปสู่โลกแห่งฝันร้ายที่ถือว่าคุณสมบัติเด่นอันคู่ควรของผู้ชายคือความโหดร้ายและความรุนแรง และผู้หญิงถูกมองว่าเป็นเพียงแม่พันธุ์ที่เสื่อมโทรมลงทุกวัน ฝันร้ายอันแท้จริงคือมุมมองที่แฝงเร้นของทัศนะเช่นนั้นช่างสอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับแนวคิดร่วมสมัยทั่วไปเกี่ยวกับบุรุษเพศกับสตรีเพศ ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ The Feminist Press ที่นำเสนอวรรณกรรมดิสโทเปียนที่น่าสยดสยองเล่มนี้ ซึ่งเขียนขึ้นภายใต้นามแฝงของผู้ชาย”

— Ann J. Lane, author of To Herland and Beyond

==========

“นอกจากการพรรณนาถึงผู้หญิงและบทบาทของพวกเธอ หนังสือเล่มนี้ยังช็อกผู้อ่านด้วยการแสดงภาพของภัยคุกคามโดยการใช้ความรุนแรงที่แวดล้อมอยู่กับผู้หญิงทุกคนและทุกขณะของการดำเนินชีวิต ผมคิดว่าเบอร์เดกินเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อเตือนผู้คนถึงผลของการปล่อยให้อุดมการณ์ฟาสซิสม์ที่ชั่วร้ายดำเนินไปโดยไม่มีใครท้าทายมัน“

— George Simmers; reading19001950.wordpress.com

==========

“นี่เป็นเรื่องราวที่มีพลังเกาะกุมจิตใจและน่าสนใจอย่างยิ่ง ความหวือหวาเชิงรักร่วมเพศของตัวละครชายแบบเหมือนจะทำให้หมดอาลัยตายอยากกับชีวิตจนคุณอาจคิดว่าหนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นในยุคหลังถัดมา ผู้หญิงในเรื่องต่างต้องเผชิญกับอนาคตแห่งฝันร้ายที่ดูจริงจังมาก ผมขอแนะนำหนังสือเล่มนี้สำหรับนักอ่านทั้งพวกที่เป็นแฟนนิยายวิทยาศาสตร์ดิสโทเปียนหรือไม่ได้เป็นก็ตาม ผมคิดว่าอาจดูเหมือนเป็นการหมิ่นหยามต่อ Swastika Night อยู่สักหน่อย หากมีใครบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็น ‘คู่หู’ ของ 1984 อันโด่งดัง วรรณกรรมนี้มีคุณลักษณะอันแข็งแกร่งในตัวของมันเองมากมาย”

—  Dave Bloomer; Literary Critic

========== 

“ผมรู้สึกมานานแล้วว่า Swastika Night ของ Katharine Burdekin เหนือกว่านิยายวิทยาศาสตร์ดิสโทเปียนเล่มอื่นในยุคนั้น ซึ่งอาจเป็นยุคอันบานสะพรั่งอุดมสมบูรณ์ที่สุดสำหรับวรรณกรรมประเภทนี้ นี่คือหนังสือที่ยอดเยี่ยมและสมควรจะยืนหยัดอย่างสง่าอยู่ท่ามกลางหนังสือคลาสสิคทั้งหลาย ช่างน่าเศร้าที่ผู้เขียนคนนี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันมากนักในวงกว้าง!”

—  T.T. Rogers; Literary Academic

==========

“... อย่างไรก็ตาม การที่ฮิตเลอร์แพ้สงครามโลกครั้งที่สองไม่ได้หมายความว่า Swastika Night ไม่ได้ส่งสารอันสำคัญต่อผู้อ่านสมัยใหม่ … นวนิยายของเบอร์เดกินยังสำรวจไปถึงความเชื่อมโยงระหว่างเพศกับอำนาจทางการเมือง … เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้น Swastika Night ก็ได้กลายเป็นเชิงอรรถทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแนวคิดสันตินิยมถูกพิจารณาว่าเป็นการสนองตอบต่อฮิตเลอร์ในแบบที่เป็นไปไม่ได้จริงจึงต้องมีการประกาศสงคราม แต่ในปัจจุบัน ข้อโต้แย้งของฝ่ายสตรีนิยมเกี่ยวกับ 'อำนาจชายเป็นใหญ่' ที่ล้นเกิน กับ 'การลดระดับสถานะของผู้หญิง' ไปในขณะเดียวกัน ก็ประกอบเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่อง มากพอกันกับทรรศนะที่ประณามอุดมการณ์อันชั่วร้ายของลัทธินาซี ทำให้หนังสือควรค่าแก่การพิจารณาโดยผู้อ่านร่วมสมัยอย่างยิ่ง”

—  Lawrance Bernabo; Literary Critic

==========

คลิกสั่งซื้อ สวัสดิกะไนท์ (Swastika Night)
วรรณกรรมโลกสมมติลำดับที่ 10


สั่งซื้อ SET หนังสือราคาพิเศษ //Set วรรณกรรมโลกสมมติ//