Last updated: 23 ก.ย. 2565 | 1438 จำนวนผู้เข้าชม |
ความเป็นมาของ Swastika Night
ผู้รอบรู้แห่งวงการและผู้วิจารณ์วรรณกรรมแนวดิสโทเปียนจำนวนหนึ่งเห็นว่า สวัสดิกะไนท์ (Swastika Night) น่าจะเป็นนวนิยายเรื่องที่รู้จักกันมากสุดของ แคทธารีน เบอร์เดกิน (Katharine Burdekin) ซึ่งเธอลงมือเขียนขึ้นระหว่างปี 1934 ถึง 1935 หลังจากพรรคนาซีแห่งเยอรมนีขึ้นครองอำนาจสูงสุดของประเทศเด็ดขาดแล้ว
หนังสือซึ่งเขียนขึ้นภายใต้นามแฝงเป็นชื่อผู้ชาย ‘เมอร์เรย์ คอนสแตนติน’ (Murray Constantine) ได้รับการตีพิมพ์ปี 1937 ต่อมาตีพิมพ์ซ้ำปี 1985 และต่อเนื่องมาทั้งในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา สะท้อนให้เห็นถึงการวิเคราะห์ของผู้เขียนเกี่ยวกับลักษณะอำนาจใน ‘สังคมชายเป็นใหญ่’ ตามแนวอุดมการณ์ลัทธิฟาสซิสม์ Swastika Night
บรรยายถึงอนาคตในอีกหลายร้อยปีข้างหน้าซึ่งโลกดิสโทเปียนอันหม่นสลัวถูกแบ่งออกเป็นสองฟากภายใต้สองมหาอำนาจที่ได้กำชัยชนะในสงครามเหนือโลกเสรี – ระบอบนาซีแห่งเยอรมนี กับ ญี่ปุ่นภายใต้เผด็จการทหาร – เสนอภาพจักรวรรดิไรช์ที่กำลังถดถอย ชาวยิวถูกกำจัดหมดไปนานแล้ว ชาวคริสต์กลายเป็นกลุ่มคนชายขอบ และฮิตเลอร์ได้รับการยกย่องบูชาเป็นพระเจ้า
การปกครองทั่วทั้งจักรวรรดิดำเนินไปตามหลักการแห่ง ‘ลัทธิชายเป็นใหญ่’ และรัฐเผด็จการใช้มาตรการ ‘การลดสถานะสตรี’ อันเข้มงวดเพื่อลิดรอนสิทธิทุกประการในชีวิตของสตรีเพศ ผู้หญิงทั้งหมดถูกกักขังรวมหมู่ไว้ในค่ายกักกัน พวกเธอมีคุณค่าเหลือเพียงผู้มีบทบาทสำหรับการสืบเผ่าพันธุ์
เมื่อปี 1940 Swastika Night ได้รับการคัดเลือกให้ตีพิมพ์สำหรับสมาชิกโดย ‘สโมสรหนังสือฝ่ายซ้าย’ (Left Book Club) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานนวนิยายไม่กี่ชิ้นที่ได้รับเกียรตินอกเหนือจากพวกหนังสือสารคดีและวิชาการ
คำเตือนสำคัญในเนื้อหาสาระของหนังสือเล่มนี้คือ “การวางเฉยต่อการใช้อำนาจเผด็จการคือการเกื้อหนุนสร้างเสริมทรราช”
นักวิจารณ์วรรณกรรมยุคใหม่ ดาร์รักห์ แมคมานัส (Darragh McManus) แห่งหนังสือพิมพ์อังกฤษ ‘เดอะ การ์เดียน’ (The Guardian) เขียนวิเคราะห์ถึง Swastika Night บางส่วน :
แม้ว่าเป็นจินตนาการที่ก้าวไกลมากมาย แต่ Swastika Night ก็แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ทางเลือกที่สอดคล้องกันอย่างน่ากลัวและมีความเป็นไปได้ และเมื่อพิจารณาถึงยุคสมัยที่ตีพิมพ์และสิ่งที่เรารู้กันในปัจจุบันเกี่ยวกับการปกครองของระบอบนาซี ซึ่งมีคนเพียงเล็กน้อยในยุคนั้นที่เข้าใจได้ถ่องแท้
นวนิยายเรื่องนี้จึงเป็นคำทำนายที่น่าหวั่นผวาและเห็นภาพชัดเจนเกี่ยวกับธรรมชาติของลัทธินาซี นั่นคือ ความรุนแรงและความไม่ใส่ใจต่อมนุษยธรรม ความไร้เหตุผลและความเชื่อโชคลาง ความไม่บรรลุนิติภาวะทางอารมณ์และหลงผิดกับพลังกล่อมเกลาคล้ายเวทมนตร์ ความอับจนอันน่าสยองทางโลกียวิสัย วิถีทางที่มันลดทอนความเป็นมนุษย์และทำลายล้างคนทุกผู้ทุกนามแม้กระทั่งเหล่าผู้ที่ใช้อำนาจนั้นเองในที่สุด
ประเด็นอันสำคัญสุดยอดคือการเชื่อมโยงแบบแยกไม่ออกระหว่างหัวข้อ การชิงชังผู้หญิง แนวคิดชายเป็นใหญ่ กับลัทธิฟาสซิสม์ นี่คือการเขียนเชิง ‘ข้าขอประณาม’ อันดุเดือด แต่แนบเนียนและควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยมต่อ ‘แนวคิดชิงชังผู้หญิง’ Swastika Night เป็นหนึ่งในนวนิยายไม่กี่เรื่องที่กล่าวเน้นถึงองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของลัทธินาซี นั่นคือ “ผู้ชายคือวีรบุรุษผู้พิชิตโลก ผู้หญิงจงรู้จักเจียมเนื้อเจียมตน”
==========
คลิกสั่งซื้อ Swastika Night
ขอแนะนำ Set หนังสือราคาพิเศษ Set วรรณกรรมโลกสมมติ