Last updated: 17 ม.ค. 2565 | 1962 จำนวนผู้เข้าชม |
สนทนากับ วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรห์ส (William S. Burroughs)
โดย อันเลน กินสเบิร์ก (Allen Ginsberg) และ เกรเกอรี่ คอร์โซ (Gregory Corso)
บทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกใน Journal for Protection of All Beings ซึ่งมี ลอเรนซ์ เฟอร์ลิงเกตติ เป็นบรรณาธิการ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ซิตี้ ไลทส์ (City Lights) ซานฟรานซิสโก เมื่อปี ค.ศ.1961
เกรเกอรี่ คอร์โซ : คุณศึกษามาทางด้านไหน?
วิลเลี่ยม เบอร์โรห์ส : ศิลปะและวิทยาศาสตร์
คอร์โซ : คุณคิดเห็นอย่างไรบ้างกับความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น?
เบอร์โรห์ส : ความขัดแย้งทางการเมืองเป็นเพียงผิวหน้าของสิ่งที่ประจักษ์ได้ ถ้ามีความขัดแย้งเกิดขึ้น คุณก็แน่ใจได้เลยว่า จะต้องมีอำนาจที่ทำให้ความขัดแย้งดังกล่าวดำเนินต่อไป ตราบเท่าที่มันยังให้ประโยชน์จากสถานการณ์นั้น การที่คุณวิตกกังวลกับผิวหน้าของความขัดแย้งทางการเมืองก็เปรียบเสมือนคุณเป็นวัวกระทิงในสนามสู้วัว ซึ่งวิ่งเข้าใส่ผ้าคลุม การเมืองมีไว้เพื่อการนี้ สอนคุณให้รู้จักเพียงแต่ผ้าคลุม แบบเดียวกับที่นักสู้วัวสอนวัวกระทิง ให้มันเฝ้าติดตามและหันเหความสนใจไปสู่ผ้าคลุมนั้น
คอร์โซ : ใครเป็นคนประดิษฐ์ผ้าคลุมที่ว่านี้ขึ้นมา?
เบอร์โรห์ส : ความตาย
อันเลน กินสเบิร์ก : แล้วความตายคืออะไร?
เบอร์โรห์ส : เป็นเพียงแค่เล่ห์กล เป็นเล่ห์กลของเวลา - การเดินทาง - ความตาย แต่คงใช้ได้อีกไม่นาน เพราะมีคนอีกเป็นจำนวนมากเริ่มฉลาดขึ้น
คอร์โซ : คุณรู้สึกไหมว่า มีความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเกิดขึ้นกับการปรุงแต่งรูปโฉมมนุษย์? จิตสำนึกแบบใหม่?
เบอร์โรห์ส : แน่นอน ผมสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องนี้ได้ ผมรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง การกลายพันธุ์ของจิตสำนึก ที่จะผุดบังเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ หากว่าความกดดันที่กำลังดำเนินอยู่ถูกยกออก ผมรู้สึกได้ถึงหลักเกณฑ์อันเป็นเครื่องมือในการผูกขายและควบคุม ซึ่งขัดขวางมิให้จิตสำนึกที่ว่าแผ่ขยายออกไป เป็นเส้นเชือกแห่งถ้อยคำที่ควบคุมความคิด ความรู้สึก สัมผัสการรับรู้ที่ตรึงตราในเรือนกายของมนุษย์
กินสเบิร์ก : ถ้ามันถูกยกออกไปแล้ว อะไรคือขั้นต่อไป?
เบอร์โรห์ส : ขั้นต่อไปควรทำด้วยความเงียบเชียบ เราแยกตัวเราออกจากรูปแบบของคำ (word form) ขั้นตอนนี้สามารถสำเร็จได้โดยการแทนที่ถ้อยคำ ตัวอักษร แนวคิด แนวคิดที่เป็นวจนะภาษา การแสดงออกในหมวดอื่นๆ อย่างเช่น สี เราสามารถแปลถ้อยคำและอักขระให้เป็นสี แร็งโบด์ (Arthur Ribaud) เคยกล่าวถึงสีของสระ การอ้างถ้อยคำอย่าง “ถ้อยคำ” เองก็สามารถอ่านได้ด้วยสีแห่งความเงียบ กล่าวในอีกทางหนึ่งแล้ว มนุษย์ควรถอยห่างออกมาจากวจนะภาษาเพื่อดำดิ่งสู่ห้วงแห่งสำนึก ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารับรู้ได้ในระยะมือเอื้อม
คอร์โซ : อธิบายได้ไหมว่า เราสามารถก้าวไปสู่ขั้นต่อไปได้อย่างไร?
เบอร์โรห์ส : อืม...นี่เป็นหัวข้อและสิ่งที่ผมกำลังใคร่ครวญคิดอยู่ ขั้นต่อไปทำได้โดยการปลดเกราะชุดเก่าลง เพราะถ้อยคำถูกสร้างขึ้นในตัวของคุณ ในเครื่องพิมพ์ดีดแบบนุ่มละมุนในครรภ์ที่คุณไม่เคยตระหนักว่าเป็น เกราะถ้อยคำ (word-armour) ซึ่งติดตัวมา ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเริ่มอ่าน ดวงตาของคุณก็จะค่อยๆเคลื่อนที่จากซ้ายไปขวา อย่างไม่อาจขัดขืน - ด้วยความรู้สึกเคยชิน ตอนนี้ ลองทุบทำลายการอ่านในแบบเดิมให้แตกเป็นเสี่ยงๆ : ลองดูสิว่ามันมีวิธี หรือหนทางใดที่เราสามารถเปลี่ยนไปสู่ทางออกอื่นๆ อย่างเช่น สี สีของคำในเครื่องพิมพ์ดีดแบบนุ่มละมุน ใส่เข้าไปในปมขัดแย้งทางการเมือง เพื่อบรรลุถึงจิตสำนึกของการผูกขาดและควบคุม
คอร์โซ : การอ่านแบบนี้เหมือนจะมีตอนจบแบบเดียวกับที่คุณเริ่มต้น กับการเมือง และการกำหนดคำเรียก (nomenclature) เช่น ความขัดแย้ง การบรรลุข้อตกลง แนวทางการแก้ปัญหา การผูกขาด การควบคุม แล้วมันจะช่วยอะไรได้?
เบอร์โรห์ส : แน่นอน สิ่งที่ผมพยายามจะบอกก็คือ ถ้าคุณพูดคุณก็จบลงที่การเมือง ซึ่งไม่นำพาไปที่ใดเลย หากกล่าวให้รัดกุม ผมตั้งใจบอกว่า มนุษย์กำเนิดมาจากเครื่องพิมพ์แบบนุ่มละมุน
คอร์โซ : คุณจะให้คำแนะนำพวกนักการเมืองอย่างไร?
เบอร์โรห์ส : พูดความจริงให้หมดในคราวเดียว และก็หุบปากไปตลอดกาล
คอร์โซ : จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนไม่อยากเปลี่ยนไม่ต้องการจิตสำนึกใหม่อะไรทั้งนั้น
เบอร์โรห์ส : สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องเปลี่ยนแปลง ถ้ามันทำไม่ได้ หรือไม่อาจทำเช่นนั้นแล้ว - ผมอยากจะยกตัวอย่าง กรณีของไดโนเสาร์ซึ่งมีเกราะที่หนาและมีขนาดใหญ่คือเรือที่กำลังจม ดังนั้นมันจึงต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม – มันไม่ได้อยู่ในอำนาจหรือความปรารถนาของผมหรอกที่จะกลับไปเป็นไดโนเสาร์อย่างเสียไม่ได้ ผมคิดว่าผมเข้าใจเรื่องนี้ดี เกรเกอรี่ ผมกำลังรู้สึกว่าตัวเองคือเรือกำลังจะจม และผมก็ต้องการออกจากเรือ
คอร์โซ : คุณว่าเฮมิงเวย์ (Ernest Hemingway) สามารถออกจากเรือได้ไหม?
เบอร์โรห์ส : อาจจะไม่นะ
=====
วันต่อมา
กินสเบิร์ก : การควบคุมคืออะไร?
เบอร์โรห์ส : ตอนนี้ พวกนักการเมืองทั้งหลายคือปัจจัยสำคัญของการควบคุม ยิ่งมีประสิทธิภาพมากเท่าไรก็ยิ่งส่งผลกระทบมากขึ้นเท่านั้น องค์กรทางการเมืองกำลังทำหน้าที่รับใช้แบบเดียวกับเครื่องจักร ซึ่งคอยขจัดผลกระทบต่างๆ อันไม่อาจคาดทำนายได้ อย่างเช่น อารมณ์ เป็นเครื่องจักรที่คอยดูดซับและขจัดผลกระทบเหล่านั้น เพียงแต่คนที่สามารถทำให้เครื่องจักรทำงานก็คือคนที่มีแรงผลัก หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ถ้าปัจเจกทุกคนคือเงื่อนไขที่ทำให้เครื่องจักรทำงานเต็มประสิทธิภาพ ก็น่าจะมีใครอย่างน้อยสักคนที่อยู่นอกตัวเครื่องจักรเพื่อออกคำสั่งที่จำเป็น ถ้าเครื่องจักรดูดซับหรือขจัดสิ่งที่อยู่นอกเครื่องจักรทั้งหมด เครื่องจักรจะชะลอการทำงาน และหยุดไปตลอดกาล กระแสชีพจรที่ตรวจไม่พบในร่างกายและจิตคือสิ่งที่นำไปสู่การทำลายองค์กรที่ว่ามานี้
กินสเบิร์ก : แล้วมีองค์กรประเภทใดบ้างที่สังคมเทคโนโลยีไม่อาจควบคุม
เบอร์โรห์ส : ประเด็นทั้งหมดก็คือ ผมรู้สึกว่าเครื่องจักรจะต้องถูกกำจัด ตอนนี้การทำตามเป้าประสงค์ของมันได้ช่วยกระตุ้นเตือนเราให้เห็นถึงอันตรายจากเครื่องควบคุมหรือจะต้องขจัดวิทยาศาสตร์ธรรมชาติให้สิ้นซาก - ถ้ามีใครที่จะต้องถูกนำตัวไปสู่ห้องประหารแล้ว นักวิทยาศาสตร์คือพวกแรกอย่างแน่นอน ใช่ ผมเป็นพวกที่ต่อต้านวิทยาศาสตร์ เพราะผมรู้สึกว่า วิทยาศาสตร์นั้นทำหน้าที่เป็นภาพเสนอของการสมคบคิดซึ่งปลอมแปลงเป็นความจริงและจักรวาล จักรวาลของพวกนักวิทยาศาสตร์เท่านั้น พวกเขาเสพติดความจริง และต้องมีอะไรที่เป็นจริงมากๆ ติดมืออยู่เสมอ เรามีเครื่องจักรที่สร้างขึ้นด้วยความประณีต ซึ่งผมรู้สึกว่าจำเป็นต้องทำลายมันลงให้ราบคาบ เพื่อให้เป็นเช่นนั้นเราต้องการคนที่เข้าใจกลไกการทำงานของเครื่องจักร – สื่อสารมวลชน - เหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ
อ่านต่อฉบับเต็ม การเดินทางจากจักรวาลสู่เม็ดทราย ของ ประกาย ปรัชญา สัมภาษณ์โดย เขี้ยว คาบจันทร์
ใน วารสารหนังสือใต้ดิน (Underground Buleteen) เล่มที่ 11
คลิกสั่งซื้อครบ Set วารสารหนังสือใต้ดิน ในราคาสุดพิเศษ